Sri SrinivasaPerumal Temple
เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งบนถนนเซรางกูน สร้างขึ้นจากการบริจาคเงินช่วยเหลือของ พี โกวินกาซามาย พิลไล ชาวอินเดียผู้มีชื่อเสียงในย่านลิตเติ้ลอินเดีย เพื่อเป็นเกียรติแก่พระกฤษณะ ปางหนึ่งของพระวิษณุ โดยด้านนอกจะมีซุ้มประตู สูงถึง 20 เมตรเป็นสิ่งสะดุดตา ส่วนด้านในก็มีตรีเทพได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ และพระอิศวร รวมทั้งพระกฤษณะและพระมเหสีอีกสององค์คอยให้ผู้มีจิตศรัธาสักการะอยู่
Petain Road
ถนนเปแตง สร้างขึ้นมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่1 เป็นย่านที่พักอาศัยของชาวจีนและได้ชื่อว่ามีบ้านงามที่สุดในสิงคโปร์ ที่ผสมระหว่างแบบมลายู อินเดีย ยุโรป และจีน ซึ่งเสาปูนเป็นอินเดีย เชิงชายจากมลายูกระเบื้องชานบ้านที่ได้รับอิทธิพลจากสเปน และลวดลายกระเบื้อมาจากจีน
Sri Veeramakaliamman Temple
วัดฮินดูที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำพัก น้ำแรงของแรงงานชาวเบงกาลี เพื่อถวายแก่พระแม่กาลี ซึ่งภายในนอกจากจะมีจิตรกรรมฝาผนังแบบอินเดียให้ชมแล้ว ก็ยังมีรูปปั้นเทพเจ้าให้สัการะ มากมายเลย
Shophouse
สถานที่แห่งนี้นอกจากเป็นที่พักอาศัยแล้วชั้นล่างยังเป็นร้านจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิดทั้งร้านขายหนังสือ ร้านขายแว่นตา ร้านขายของชำ ขายพืชผลทางการเกษตรและสถานบันเทิง ทั้งร้านขายอาหาร ผับ บาร์ ภัตตาคาร เป็นต้น
The Church of True Light
โบสถ์สไตล์อาร์ตเดกโค ถูกสร้างเพื่อใช้เป็นที่รักษาพยาบาลและโรงเรียนอนุบาลแก่พ่อค้าและแรงงานในบริเวณนี้ ถึงแม้ปัจจุบันตัวโบสถ์จะเปลี่ยนเป็นสถานที่สอนภาษาอังกฤษ แมนดาริน และทมิฬแก่พ่อค้า แม่ค้าแล้ว แต่กลิ่นอายของโบสถ์ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นอีกด้วย
Masjid Abdul Gafoor
เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งชาติย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งของสิงคโปร์ในเวลานี้ โดยสร้างเป็นแหล่งพักพิงของผู้ลี้ภัยหรือแสวงหาสันติ สร้างแบบสถาปัตยกรรมจะเป็นแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบชาวมัวร์และอินเดียตอนใต้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่นาฬิกาแดดบริเวณด้านหน้าทางเข้ามัสยิดออกแบบเป็น 25 แฉกเขียนด้วยตัวอักษรอาหรับ ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้จะใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่พบปะพูดคุยของผู้คนชาวมุสลิมด้วย
Church of Our Lady of Lourdes
เป็นโบสถ์คริตจักรคาทอลิกของชาวทมิฬแห่งแรกในสิงคโปร์ สร้างด้วยสไตล์การออกแบบแนวโมเดิร์นตามแบบโบสถ์ในประเทศฝรั่งเศส
Masjid Hajjah Fatimah
ภายในสวนสาธารณะกัมปงกีลาม นอกจากจะเป็นจุดพักผ่อนของคนละแวกนี้ ส่วนรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้นจะผสมผสานระหว่างอาหรับและยุโรป แต่ด้วยความเป็นรูปแบบที่เรียบง่าย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจึงไม่แวะมา ยกเว้นชาวมุสลิม
Sultan Mosque
สุเหร่าสุลต่าน เป็นมัสยิดขนาดใหญ่ที่สุดในสิงค์โปร์ สร้างขึ้นโดยมีสถาปนิกชาวไอริช เดนิส แซนทรี เป็นผู้ออกแบบ จุดเด่นของสุเหร่าจะอยู่ตรงโดมทองขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยยอดแหลม ทั้ง 4ด้าน ซึ่งถือเป็นศิลปะสไตล์อาหรับ อันโดดเด่นและหารชมจากไหนไม่ได้แล้ว ปัจจุบันยังคงใช้เป็นที่ละหมาดหลักของชาวมุสลิมในสิงคโปร์ ที่นี่สามารถรองรับคนได้ถึง 5000 คนทีเดียว
Malay Heritage Museum
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางการศึกษาของชาวมุสลิม รวมไปถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวมลายูในสมัยก่อน ผ่านโมเดลจำลอง ข้าวของครื่องใช้ต่างๆ รูปถ่าย ฯลฯ โดยจะแบ่งเนื้อหาตามช่วงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น
GdungKuning
แมนชันสีเหลืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น โดยสุลต่านอาลี อิสกานดาร์ชาร์ เพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระองค์ แต่เมื่อพระองค์สวรรคต โอรสนามว่า เทง กู มาห์มุด ก็ได้ขายอาคารให้กับนักธุรกิจชาวมลายู เพื่อใช้เป็นบ้านพักของครอบครัว ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านอาหารมลายู ชื่อว่า เรสโตรานเทปักไซเรห์ ซึ่งจะเสริฟอาหารพื้นเมืองรวมไปถึงอาหารฮาลาล
The kwanIm Thong Hood Cho Temple
อยู่ทางย่านบูกิส เป็นวัดจีน นามว่า กวนอิมตงฮุดโซ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในสิงคโปร์ ผู้คนมากมายต่างมาสักการบูชา เจ้าแม่กวนอิม  ต่อมาได้ถูกปรับปรุงและขยายพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก่อนนำสถาปัตยกรรมแบบจีน รวมทั้งคำจารึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ มาจัดแสดงให้ผู้มาเยือนได้ชมกัน
Sri Krishnan Temple
เป็นวัดฮินดูที่ตั้งติดกับวัดพุทธ ผู้ที่มาไหว้เจ้าแม่กวนอิม ก็จะถือโอกาสมาขอพรจากเทพเจ้าของฮินดูที่วัดนี้ด้วยเสมอ บรรยากาศแถวนี้จึงมีสีสันทั้งจากดอกไม้ไหว้พระ สองข้างถนนคนเดินแห่งนี้ก็มีร้านขายของที่ระลึก แผงขายผลไม้ ศูนย์อาหาร หากไปเดินช่วงค่ำๆ ก็มักจะมีการแสดงศิลปะท้องถิ่น เช่น การแสดงมายากล กายกรรมผาดโผน การแสดงดนตรีแปลกๆ ดารแสดงร่วมกับงู